i128lala
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

X AGENT : 13

Go down

X AGENT : 13 Empty X AGENT : 13

Post by i128lala Sat Mar 08, 2014 4:01 pm

13

"พี่อย่ามากินของในตู้เย็นที่ผมซื้อมาสิ"
"ไอ้พี่คริส อย่ามามั่ว นั่นมันผ้าเช็ดตัวผม"
"พี่แอบเอายาสีฟันผมไปใช้แล้วไม่ปิดฝาใช่ไหม"
"ไอ้พี่เครสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส"

เป็นธรรมดาที่สามีภรรยาทะเลาะกันถือเป็นเรื่องกระจุกกระจิก
เพราะตั้งแต่กลับมาจากสวนน้ำ ดูเหมือนชานยอลจะทำใจยอมรับในความเป็นรูมเมทของกันและกันได้บ้างแล้ว ความมุ้งมิ้งจึงบังเกิดขึ้นในเช้าวันแรกของการใช้ชีวิตร่วมกัน
ต้องขอบอกว่าคริสมีความอิ่มอกอิ่มใจทุกครั้งที่เห็นชานยอลแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่พอใจกับการกระทำเล็กๆน้อยๆอันแสนรื่นรมย์ของเขา ก็เสียงทุ้มของน้องชานยอลเวลาแว้ดๆใส่เขามันน่าฟังใช่หยอกนี่นา
วันนี้น้องชานยอลมีเรียน คริสเองก็ต้องทำงานทำการเหมือนกันหลังจากทิ้งให้จื่อเทาบริหารกิจการคนเดียวมาพักใหญ่เนื่องจากข้ออ้างควายๆว่าเป็นผู้ชายอกหัก ได้ข่าวว่ามาตั้งแต่เอ็กซ์เอเย่นต์คนดังไม่ได้ไปยืนประจำที่คอยหาลูกค้าเหลือแต่จื่อเทาเฝ้าร้านนี่ยอดขายก็ตกไปเยอะเหมือนกัน
คือน้องชานยอลก็ต้องเข้าใจพี่นะ ว่าพี่ก็ต้องทำงานทำการบ้าง นี่พูดเลย

"เก้อ หายหน้าหายตา ไม่โทรมาบอกน้องนุ่งว่าเป็นยังไงบ้าง รู้ไหมว่าอั๊วต้องฟังอาลู่บ่นวันละกี่รอบ"
"ไม่รู้"
"นั่นสินะ เก้อจะรู้ได้ยังไง บ้าจริง เฮ้ย ไม่เกี่ยว ประเด็นคืออะไรยังไง อัพเดทให้อั๊วฟังด่วนเลย"
"รออาลู่มาแล้วอั๊วอัพเดททีเดียวได้มั้ย พวกลื้อเตรียมฟังข่าวดี"
หลังจากอัพเดทความสัมพันธ์เช็คสเตตัสกันไปพอสนุกปากสนุกคำแล้ว ตอนนี้คริสอยากรู้ว่าไอ้พวกงานมงคลจีนนี่เขาจัดกันยังไง ยกน้ำชงน้ำชายังไง ขั้นตอนมากน้อยยังไง หรือต้องปรึกษาอากง เพราะตอนนี้คริสคิดไปไกลถึงการแต่งงาน ถ้าสร้างอนาคตกับน้องชานยอล ได้อยู่กับร่างโปร่ง แถมชวนกันเล่นจ้ำจี้มะเขือเปราะกระเทาะหน้าแว่นตลอดทั้งวันก็แลดูเป็นอนาคตที่น่าหอมหวานใช่หยอก
คือไม่ได้คิดเลยนะว่าน้องยังเรียนไม่จบ และมีอนาคตที่ดีกว่ารออยู่ เพราะคริสเชื่อว่าตัวเองนี่แหละคืออนาคตที่ดีที่สุดสำหรับชานยอลแล้ว
นี่ไม่มั่นมากพูดไม่ได้นะ บอกกล่าวกันไว้เลย
"แล้วตกลงเก้อก็จะย้ายไปอยู่กับน้องเค้าใช่ไหม" พอฟังเรื่องทั้งหมดจบ ก็เป็นลู่หานที่ตัดประเด็นความเวิ่นเว้อปนอภินิหารของคนหลงตัวเองทิ้งไปบ้าง เหลือแต่น้ำที่ใกล้เคียงความจริงที่สุด แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเชื่อไม่ได้อยู่ดี
"ก็ต้องทำใจนะว่าอั๊วเองสักวันก็ต้องมีครอบครัว ลื้อกับอาเทาอยู่กันเองได้ใช่ไหม"
"เชิญเถอะ อั๊วไม่สนเลยสักนิด"
"อ๋อ เดี๋ยวนี้ไม่สนเก้อ เพราะมีเด็กกุญแจผีคอยเอาใจสินะ"
"เก้ออ้ะ เข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว" ลู่หานกระฟัดกระเฟียดพอเป็นพิธี แม้ในใจจะรู้สึกพองโตไม่น้อย แต่ด้วยความเป็นชายชาติเสินเจิ้น เลยต้องมีลูกเล่นตัวกันบ้าง ขืนเรื่องไปถึงหูเซฮุนล่ะก็จะได้ใจไปกันใหญ่ จะบอกว่าลู่หานไม่ใช่ ซันนัมจา (ผู้ชายราคาถูก) นะครัช
"ใช่ซี้ วันๆเตะบอล วันๆเตะบอล เดี๋ยวก็มีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง" เย้าแบบไม่คิดถึงสภาพความเป็นจริงของสังคมว่าต่อให้ลู่หานไปเตะบอลกับเซฮุนห้าร้อยรอบก็ท้องไม่ได้ แต่ยังไม่ทันที่นางฟ้าอู๋เก้อเอจะได้อาละวาดให้หายเขิน ฝ่ามืออรหันต์ของอู๋อี้ฟานก็ยกขึ้นเป็นปางห้ามญาติเสียก่อน
“พอ บ่นมากอั๊วหูยาน เดี๋ยวต้องเตรียมตัวไปซื้อของสดมากับข้าวรอน้องชานยอลกลับมาอีก”
“หา เก้อจะทำกับข้าว!!!!!!!!!!” ทั้งจื่อเทา ทั้งลู่หานตะโกนออกมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย ก็คริสน่ะคือสุดยอดเชฟกระทะเหล็กที่นานๆจะได้โชว์ทักษะการทำกับข้าวขั้นสุด ขนาดจื่อเทาหรือลู่หานที่ว่าสนิทกันเป็นลูกพี่ลูกน้องยังไม่มีโอกาสได้กินเลย
ปาร์คชานยอล นายทำบุญด้วยอะไร!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

.
.

"เยส!!!!!!!! ไม่อยู่ห้อง"
ขณะนี้ ปาร์คชานยอลผู้กลับห้องมาด้วยความรู้สึกปลอดโปร่งโล่งสบายเป็นที่สุดกำลังกำหมัดถองลมด้วยความสะใจ ขอบอกว่าชานยอลโครตหลวมตัวที่ยอมตกลงให้คริสเข้ามาเป็นรูมเมท
หายนะก็มาเยือนตั้งแต่คืนแรก

FLASH BACK //

ลองนึกตามเอาก็ได้ว่า เวลาที่กลับมาจากสวนน้ำ ใครมันจะมีแรงไปคิดห่าเหวอะไร นอกจากอาบน้ำเสร็จก็อยากจะกระโจนขึ้นเตียงแล้วหลับสนิทเพราะเหนื่อย ถึงแม้ว่าช่วงที่ชานยอลไม่อยู่ที่ห้อง คริสจะถือวิสาสะจัดห้องตามใจฉัน ขนาดเตียงนอนมันยังไม่ยอมแยกเลยก็เถอะ แต่ความเหนื่อยก็ไม่เข้าใครออกใครนี่หว่า ชานยอลเลยโถมตัวลงบนเตียงนุ่มแบบสะใจสุดๆ
ส่วนไอ้หล่อนี่ก็เหมือนกัน ผิดตรงที่ไม่ได้กระโจนขึ้นเตียงฝั่งตัวเองหรอกนะ แต่มากระโจนเบียดชานยอลที่ทิ้งตัวลงนอนด้วยความเหนื่อยอ่อนและชะล่าใจ ดีนะที่ปาร์คชานยอลไหวตัวทัน เอาเท้ายันหน้าอกเอาไว้เสียก่อน ไม่งั้นคริสคงอาศัยช่วงที่ร่างโปร่งหมดแรง หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันกับชานยอลไม่ทางใดก็ทางหนึ่งแน่
นี่ขนาดมีเท้ายันยอดอกอยู่นะ มือซุกซนของคริสยังค่อยๆไต่ไปตามไหล่ของชานยอลช้าๆ ไต่ไปตามรังกระดุมเสื้อเชิ้ตนอนของชานยอลก่อนจะเขี่ยกระดุมชุดนอนลายสก๊อตเม็ดบนจนหลุด
คราวนี้รถถังฝั่งธนจะไม่ยอมให้มือเรียวสาวต่อไปถึงกระดุมเม็ดที่สองอีกแล้ว มือเรียวคว้าหมับเข้าที่มือของคริสทันที ก่อนจะมองไอ้หล่อที่ทำหน้าหื่นอย่างเปิดเผยด้วยสายตาที่คิดว่าดุที่สุดในโลกกว้าง
“ไม่เล่นนะพี่”
“หืมมมมมมม นี่ก็ไม่ได้เล่น”
“ไม่ได้เล่นบ้าอะไรไอ้พี่คริส ผมหนัก ออกไปได้แล้ว เหนื่อย ง่วง ! จะนอนนนนนนนน!”
“ถึงจะบ้า ก็บ้ารัก”
“ไอ้พี่คริส!”
“หืมมม มีอะไรครับ ชานยอลลา”
“ผมมีอะไรจะบอกพี่ สี่คำ”
“หวังให้เจ้าปี้ งั้นเหรอ หืมมม อ้ะ อ้ะ อ้ะ ไปปี้กัน เร้วววว~”
“เปล่า”
“เอ๊ะ หรือว่า รักพี่คริสนะ งั้นเหรอ”
“ก็เปล่าอีก มันจะดีมากถ้าพี่เงียบแล้วก็ฟังคำสี่คำจากผม”
“อะไรล่ะ หืมมมมมมมมม” ไอ้หล่อยื่นหน้าทำปากจู๋ แล้ว เป่าลมร้อนๆใส่หน้าชานยอลซะอีก
รถถังฝั่งธนของขึ้นโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!
“ไปลงนรกซะ อู๋อี้ฟาน”
มันเป็นคำด่าที่ค่อนข้างแรงเลยทีเดียว เวลาที่ปาร์คชานยอลเหนื่อยมาก หน้าอินทร์หน้าพรหมถึงขั้นสบถออกมาเป็นคำแรงๆได้เลย แต่ให้ทายว่าคริสจะสะทกสะท้านไหม?
คำตอบคือ ไม่! แถมคริสยังโน้มหน้าลงมาใกล้ๆหน้าชานยอลที่หลับตาปี๋ ก่อนจะหัวเราะหึหึ แล้วเปลี่ยนผละจากใบหน้าของชานยอล มาทำเสียงเซ็กซี่ใกล้ๆหูอีก
“ฉันก็มีคำสี่คำบอกนายเหมือนกัน ไปด้วยกันนะ ปาร์คชานยอล”
“นายได้สิทธินั้นเดี๋ยวนี้!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
อั๊กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เอ็กซ์เอเย่นต์กระเด็นกระดอน นอนสลบเหมือดอยู่ปลายเตียงด้วยประการฉะนี้

FLASH COME //

คริสทำให้ชานยอลลำพองใจได้ไม่นาน
หลังจากที่เปลี่ยนเสื้อผ้าจากเครื่องแบบมาเป็นชุดลำลองที่ค่อนข้างรัดกุมแล้วได้ประมาณสิบห้านาที ไอ้หล่อก็กลับมาที่ห้องพร้อมด้วยถุงพะรุงพะรังจากซูเปอร์มาร์เก็ต
“พี่ซื้ออะไรมาเนี่ย”
นั่นเป็นคำถามแรก แต่ด้วยเหตุว่าเมื่อเช้ามีเหตุการณ์ที่คริสแย่งโยเกิร์ตบัลแกเรียสามร้อยปีที่ชานยอลซื้อทิ้งไว้ในตู้เย็นไปกินเสียหมด ร่างโปร่งเลยมีความคาดหวังว่าไอ้หล่อมันจะซื้อกลับมาคืนให้ แต่เปล่าเลย
ปาร์คชานยอลเดินมาไกลเกินกว่าจะกลับไปชีวิตธรรมดาแล้ว
“จะทำกับข้าว”
“อะไรนะ!”
“อื้อ จะทำกับข้าวไง”
“ทำที่ไหน นี่มันหอพัก พี่ซื้อของมาหยั่งกะจะทำโต๊ะจีน”
“ที่ระเบียงนี่แหละ วันก่อนจัดห้องเห็นมีกระทะไฟฟ้าด้วยนี่”
โอ้โห มันสำรวจหมดครัช จัดว่าเด็ดจริงๆ นี่ไม่ใช่เวลาว่างแอบมานั่งนับเสื้อผ้าของปาร์คชานยอลว่ามีกี่ตัว กี่ชิ้น สีอะไรบ้างหรอกนะ
“ผมไม่ล้างจานนะ”
“ใครว่าพี่จะให้เราล้าง เราน่ะล้างตู้เย็นให้พี่ก็พอ”
มันไม่จบครัชชชชชชชชชชชชชชชชชช! ชานยอลรู้ตัวเลยว่าตอนนี้สีหน้าของตัวเองเป็นอย่างไร แต่เหมือนอีกคนจะไม่ได้สนใจกับการแสดงออก เพราะมัวแต่จัดการเอาของสดออกจากถุงมาเตรียมทำกับข้าว แถมยังตบท้ายว่า
“น้องชานยอลไม่ต้องช่วยพี่ พี่คนเดียวเลี้ยงน้องได้”
ก็ไม่ได้เสนอตัวว่าจะช่วยป่าววะ? อีกอย่างต่อให้พี่คริสไม่เลี้ยง ชานยอลก็ไม่อดตายเพราะมีข้าวมันไก่พี่จุนมยอน แม้จะอยากให้เฮียแกขายอะไรอย่างอื่นบ้างก็เถอะ ชานยอลไม่ถนัดเรื่องทำกับข้าวทุกประเภท ไอ้ที่มีกระทะหม้อไหจานชามก็ต้องขอบคุณอานิสงค์ของคิมจงแดทั้งนั้น เพราะฉะนั้น เรื่องนี้ยอลจะไม่ยุ่ง
ร่างโปร่งทิ้งตัวนั่งขัดสมาธิบนเตียง จ้องมองออกไปที่ระเบียงเห็นคริสกำลังควงตะหลิวด้วยความมาดมั่น ท่าทีที่มันใจและความคล่องแคล่วในการหั่นทั้งเนื้อทั้งหมู รวมถึงการหยิบจับอุปกรณ์ที่โปรมาก ทำให้ชานยอลอดที่จะสงสัยไม่ได้
ถ้าคริสจะทำอาหารเก่งขนาดนี้ มาขายหนังโป๊ทำไม?
ชานยอลเอื้อมมือไปหยิบหนังสือการ์ตูนเล่มโปรดที่วางอยู่ที่โต๊ะข้างหัวเตียงขึ้นมาอ่าน อ่าห์ ความรู้สึกที่ไม่ได้แตะกระดาษมีกลิ่นเหม็นคาร์บอนมานานมันเป็นอย่างนี้นี่เอง ไม่รู้ตัวว่าคริสใช้เวลาในการทำกับข้าวนานเท่าไหร่ เพราะเวลาชานยอลเปิดการ์ตูนอ่านทีไร ไม่ได้สนใจโลกทุกที รู้ตัวอีกที กลิ่นอาหารหอมๆก็ลอยเข้ามาปะจมูก
“มากินข้าวเถอะ”
กับข้าวสามสี่อย่างที่วางอยู่บนโต๊ะญี่ปุ่นส่งกลิ่นหอมจนคนมากอีโก้อย่างชานยอลต้องยอมวางหนังสือการ์ตูน เดินตรงไปหยิบจานหยิบช้อนและตักข้าวสวยที่คริสหุงไว้สำหรับตัวเองและพ่อครัวซัวเถา
“ยิ้มอะไรพี่” ถามสั้นๆเมื่อเห็นคนตัวสูงยิ้มกรุ้มกริ่ม ทำหน้าสะดิ้งตีนปลายใส่
“น้องชานยอลตักข้าวให้อ่ะ คือดีใจ”
“เฮ้อออออออออ” ไม่อยากจะต่อปากต่อคำ เพราะอาหารที่ทำมันเย้ายวนใจกว่าข้าวมันไก่พี่จุนมยอน เลยทำให้ชานยอลกลืนคำด่าผรุสวาทมากมายที่วิ่งพล่านอยู่ในหัวลงคอไป
“ไม่เคยทำให้ใครกินเลยนะ ขนาดจื่อเทาที่ว่าสนิทก็อย่าหวังจะได้กินฝีมือพี่ง่ายๆ พี่ทำให้น้องชานยอลกินคนแรก”
คำเชิญชวนของคริสทำให้ชานยอลเอื้อมมือไปตักกับข้าวจานแรกส่งเข้าปาก รสชาติของอาหารฝีมือคริสที่อยู่ในปากเป็นคำตอบของคำถามที่ปาร์คชานยอลได้ถามไปแล้ว
ถ้าคริสจะทำอาหารเก่งขนาดนี้ มาขายหนังโป๊ทำไม?
“เรื่องอาหารเนี่ย พี่น่ะเก๋ามากเลยนะ”
“อื้อ เก๋าจริงๆพี่ เก๋าเจ้ง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
จะพูดว่า คืออาหารฝีมือพี่คริสรสชาติเหี้ยมากก็จัดว่าไม่ได้อวยเกินไปนัก นี่ชานยอลบอกเลย แต่ร่างโปร่งยังรักษามารยาทด้วยการกลืนไอ้ที่อยู่ในปากลงคอไปด้วยความจำใจแบบขั้นสุด
“ไม่อร่อยเหรอ พี่ว่าพี่ปรุงแบบครบทุกสชาติเลยนะ”
“เออ มีครบทุกรสอ่ะพี่ ยกเว้นรสอร่อย รสอูมามิ คือหายไปเลย แม่ง เดี๋ยวพี่รอผมแป๊บ จะทำให้ทาน”
อัตตาของปาร์คชานยอลขึ้นสูงปรี๊ดติดเพดาน คือถ้ารสชาติเก๋าเจ้งแบบนี้ สมควรที่ปาร์คชานยอลผู้ที่ทำกับข้าวไม่เป็นจะผงาดขึ้นบ้าง! เคยเห็นจงแดมันทำอยู่สองสามอย่าง วิธีการก็ไม่ได้ยากอะไร
ปาร์คชานยอลคนนี้แหละจะสอนไอ้พี่คริสให้รู้จักคำว่าอาหารเอง!!!!!
ผ่านไปไม่นานนัก ผัดผักของชานยอลก็เสร็จ และแน่นอนว่ามันส่งกลิ่นหอมน่ากินมากเสียด้วย ร่างโปร่งยืนมองผลงานของตัวเองด้วยสีหน้าที่ภาคภูมิใจถึงขีดสุด
“นี่สิถึงเรียกว่าอาหาร” วางจานผัดผักลงบนโต๊ะ ด้วยสีหน้ายิ่งกว่าไมเคิล เฟลลป์ได้เหรียญโอลิมปิค
“น้องชานยอลทำกับข้าวให้พี่ทาน ดีใจว่ะ” คริสตักบร๊อคโคลี่คำแรกเข้าปาก แต่เมื่อเคี้ยวเข้าไปแค่สองคำ คนที่ดีใจจนเนื้อเต้นก็ต้องชะงัก
“ถุยยยยยยยยยย”
ชานยอลผงะเมื่อเห็นคริสถุยบร๊อคโคลี่ออกมาเต็มแรง ดวงตาที่โตอยู่แล้วยิ่งเบิกโพลงเข้าไปใหญ่ ตอนนี้ปาร์คชานยอลรู้สึกเหมือนคริสกำลังเอาเท้ามาเหยียบหน้า คือหยามมากเหลือเกิน บ้าจริง!
“น้องชานยอล พี่ว่าเราไปหาอะไรกินล้างปากกันเถอะ”
คริสลุกขึ้นเต็มความสูง เดินไปหยิบกระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์มือถือ พยักเพยิดให้ชานยอลออกไปหาอะไรกินด้วยกัน
“เฮ้อออออออออ พี่แม่งไม่ได้เรื่องเลยว่ะ” แม้ปากจะว่าอย่างนั้น แต่ก็ลุกขึ้นหยิบกระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาบ้าง
อย่างน้อยก็รู้สึกถึงความปกติล่ะวะ

.
.

ตอนแรก ชานยอลคิดว่าคริสจะพาไปกินอะไรง่ายๆหน้าปากซอย เลยไม่ได้แต่งตัวให้ดูดี รถถังฝั่งธนสวมแค่เสื้อยืด กางเกงบอล รองเท้าแตะ แต่พอทำท่าจะเดินเลี้ยวเข้าไปในร้านข้าวมันไก่ของพี่จุนมยอน คริสก็คว้าข้อมือไว้เสียก่อน
"จะไป CODEX MALL"
ห้าคำสั้นๆเปลี่ยนชีวิต ก้มลงมองชุดของตัวเองแล้วก็มองชุดของไอ้หล่อ เอาแล้วไง มันเอาอีกแล้ว ขนาดทำกับข้าวควันขโมงคริสยังดูดีในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนต์ กลายเป็นหนุ่มหล่อเซอร์เอาใจสาวราวหลุดออกมาจากลุคบุ๊กกันเลยทีเดียว
ส่วนชานยอลน่ะรึ
ก็เป็นเห็บหมาเพื่อนรักขี้ข้าของไอ้หล่อพี่คริสยังไงล่ะ
มันน่าโมโหนักที่เป็นผู้ชายเหมือนกัน ส่วนสูงก็ไล่เลี่ยกัน ความหล่อก็จัดว่ากินกันไม่ลง แต่ทำไมคริสถึงได้ดูดีอยู่ตลอดเวลา อันนี้เราวัดกันที่รูปลักษณ์ภายนอกอย่างเดียว อย่าวัดกันที่จิตใจ เพราะชานยอลปกติมาวินแบบเห็นๆกันไปเลย
"ไม่ไปอ่ะ แต่งตัวกะมาแค่หน้าปากซอย"
พอออกมาอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย องค์คริสเทนก็เริ่มประทับอีกแล้ว คริสเบะปากเตรียมตัวงอแง กรีดร้องโหยหวนตามสไตล์ และทุกครั้งที่ไอ้หล่อทำตัวสะดีดสะดิ้งแบบนี้ หายนะย่อมมาเยือนแก่ปาร์คชานยอลทุกที ทั้งทางโซเชียลเนตเวิร์กก็ดี ทางปากต่อปากก็ดี
เพราะงั้นทางเดียวที่จะจัดการภาวะตอแหลลงตับของเอ็กซ์เอเย่ต์ได้มีทางเดียว คือยอมๆมันไป บ้าจริง! ถ้าไอ้พี่คริสเป็นสาวน้อยน่ารักกระจุ๋มกระจิ๋มสวมชุดเจ้าสาวขาวบริสุทธิ์แบบขบวนการสาวน้อยเวดดิ้งพีชที่พี่ยูราพี่สาวของชานยอลชอบดูตอนเด็กๆแล้วล่ะก็ ต่อให้ขึ้นเขาลงห้วย ชานยอลก็พร้อมจะฟันฝ่าอุปสรรคทั้งหลายเดินเคียงบ่าเคียงไหล่ไปกับเธอ
แต่นี่มันเป็นพ่อค้าขายหนังโป๊ไง คุณค่าที่ยอลคู่ควรเหลือเกิน แม่จย๋า
"เราจะกินอะไรกันดีนะ"
ง่ะ อย่าทำเสียงร่าเริงเหมือนเรามาเดทกันครั้งที่สองได้ไหม คือแค่สวนน้ำนี่ยังตราตรึงอยู่ไม่หาย นี่จะเดทอีกแล้ว ใช่เรื่องไหมวะ???
เจ็บแล้วจำคือคน เจ็บแล้วทนคือควาย เจ็บจนตายคือโป๊มั้ยน้อง
"น้องชานยอลอยากกินอะไร"
"ข้าวมันไก่"
คืออยากกินง่ายๆ ตอนนี้ก็ยืนอยู่ข้างหน้าร้านพี่จุนมยอนเนี่ย จะไป CODEX MALL ทำซากอ้อยอะไรให้มากเรื่องมากความครับ ???????? คริสมองหน้าชานยอลนิดนึง ก่อนถอนหายใจ แล้วก้าวเดินอย่างผู้นำตรงไปยังพี่จุนมยอนที่ยืนสับไก่อยู่โครมๆ
"อ้าว คริส วันนี้กินอะไร"
ใบหน้าขาวโอโม่ราวกับกินหลอดไฟนีออนมาตั้งแต่เด็กของพี่จุนมยอนส่งยิ้มผ่านเขียงไม้สักทองมาให้ คริสเดินไปยืนมองอยู่สักครู่
"เอาข้าวมันไก่"
"ได้”
"ไม่เอาหนัง"
"อ่าหะ"
"ไม่เอาเลือด"
"โอเค"
"ไม่เอาข้าว"
"จัดไป"
"ไม่เอาแล้ว"
"เอ่อะ"
เหมือนพี่จุนมยอนจะสตั๊นไปสิบวินาที่ คริสหันมาทำหน้าเบ้กับชานยอลที่เสียวอีโต้บินของจุนมยอนเหลือเกิน
"ผมก็อยากไปกินข้าวที่ห้างกับชานยอลมั่งอ่ะพี่จุนมยอน"
เมนชั่นหาพี่จุนมยอน แต่หันหน้ามาหากรู
ปาร์คชานยอลทำได้แค่เพียงส่งยิ้มแห้งๆให้พี่จุนมยอนที่ส่งยิ้มแบบเอ็นดูมาให้ แต่แรงที่พี่สับไก่นี่ไม่ได้เอ็นดูไอ้ไก่ตอนบนเขียงเหมือนรอยยิ้มของพี่ให้ชานยอลวางใจเลยแม้แต่น้อย
"ทำไมไม่พาคริสไปล่ะ ชานยอล จะเดททั้งทีก็ไปกินอะไรดีๆแถว CODEX MALL ไป"
"เอ่อ ครับ"
คือไม่รู้จะพูดอะไร เพราะมีดในมือพี่จุนมยอนก็วาววับอยู่ แถมไอ้หล่อยังมาทำตาแป๋ว บู้ปากเล็กน้อยแต่พองามรอคอยคำตอบอีกต่างหาก ปาร์คชานยอลผู้ที่รู้สึกว่าตัวเองตัวเล็กเท่ามดจำต้องตกเป็นเหยื่อของผู้ที่เหนือกว่า
คริสคงมีสื่อในมือ หรือไม่ก็เป็นผู้ทรงอิทธิพลในโลกรอบๆฮวาซองแห่งนี้เป็นแน่แท้ ถึงได้มีอำนาจบีบนักศึกษามหาวิทยาลัยตัวเล็กๆอย่างปาร์คชานยอล
เป่านกหวีดขับไล่ มันจะยอมไปมั้ยวะ
"เพื่อนพี่เปิดร้านอาหารอิตาเลียนอยู่ที่ CODEX MALL ไปกินร้านมันไหมล่ะ เดี๋ยวพี่โทรไปบอกเอาไว้ให้ จะได้ให้มันลดให้พิเศษ เดททั้งที ต้องอาหารหรูๆสินะ"
"ร้านชื่ออะไรครับพี่"
"John's Mayun"
จอห์นมยุน ก็จุนมยอนสินะ ท่าทางเพื่อนของพี่จุนมยอนคนนี้จะไม่แคล้วเป็นร่างอวตารของคนขายข้าวมันไก่สไตล์โอโม่แหงๆ ถึงได้มีกิจการร้านอาหารอิตาเลียนกับเขาด้วย
รวยซ้ำรวยซ้อนรวยซ่อนเงื่อนสัดๆอ่ะ
"ไปร้านนั้นแหละครับ ผมชอบอาหารอิตาเลียนที่สุด"
ทำไมต้องทำเสียงดังอีกแล้ว ไอ้หล่ออยากจะบอกให้ชานยอลรู้ว่าตัวเองชอบกินอาหารอิตาเลียนหรือยังไง
"โอเค งั้นเดี๋ยวพี่โทรไปจองโต๊ะไว้ให้ อร่อยอย่าลืมบอกต่อนะ"
พี่จุนมยอนนี่ก็อีกคน คบพ่อค้าก็ไม่วายค้ากำไรจนเกินควรกันสะทุกคนสินะ ผฮึ้ยยยยยยยยยย สุดท้าย ต่อให้บ่นร้อยบ่นพัน ท้ายที่สุดจุดจบของชานยอลก็มีอยู่ทีเดียวสินะ
CODEX MALL
สถานที่แห่งความหลัง วันที่เรายังมีกันและกัน
โถ่ คยองซู นายเป็นอย่างไรบ้าง ปาร์คชานยอลคนนี้คิดถึงนายเหลือเกิน

.
.

โด คยองซูกำลังรู้สึกแปลกๆในอก
ใครจะคาดคิดเล่า ว่าคนน่ารักจิตใจงดงามอย่างคยองซูจะตกอยู่ในสภาพที่เดินไปเรื่อยๆแบบไร้จุดหมาย พร้อมกับหูฟังไอพอดเสียบหู ถ้าตอนนี้ ชีวิตของน้องคยองเป็นบทเพลงบทหนึ่ง คงเป็นบทเพลงประเภทที่เจ็บร้าวยิ่งกว่าวงไปส่งกูบขส.ดู๊วที่ฮิตกันทั้งฮวาซองแหงๆ
อาการตกหลุมรักชนิดขึ้นไม่ไหว ทำไมหนอทำไม ของดำจึงได้แรงนัก นี่มันบาดใจจริงๆ หลังจากที่ได้ยินเสียงห้าวกระโชกโฮกฮากไล่ให้คยองซูไปเผากระดาษเงินกระดาษทองให้มดในจินตนาการที่เผลอไผลเหยียบไปในวันนั้น
มันทุ้มอยู่ในใจเหลือเกิน

นี่คือทำนองแห่งความหลังระหว่างเรา ได้ยินเมื่อไร ยิ่งนึกถึงวันเก่า
เนิ่นนานแค่ไหน แต่เพลงนี้ของเรา ยังทุ้มอยู่ในใจ
เพลงแห่งความรัก ที่เธอร้องเป็นอย่างไร วันที่เงียบเหงา เธอจะคิดถึงเพลงของใคร
ตั้งแต่จากกัน วันนี้เธอเป็นไงฉันอยากจะรู้

ก็ไม่รู้หรอกว่าคนตัวดำคนนั้นเป็นอย่างไร ชื่ออะไร อยู่ที่ไหน ไม่รู้ว่าเขาจะคิดถึงคยองซูเหมือนกันหรือไม่ ไม่รู้ว่าตัวเองเดินเอ้อระเหยไปถึงไหน แต่พอรู้ตัวอีกที สิ่งที่คยองซูได้ยินตามหลังมาก็คือเสียงกรีดร้องตะโกนด้วยความตกใจดังลอดหูฟังเข้ามา พร้อมกับแรงกระชากที่แรงมากปะทะเข้าที่แขน
อะไรก็ไม่รู้ แกล้งตายก่อนแล้วกัน แม่สอนไว้
"ตาโต โอเคหรือเปล่า"
เสียงห้าวๆที่ได้ยินตั้งแต่ยังไม่หลับตานั่นคือเสียงอะไร ทำมันมันช่างคุ้นเคยเหลือเกิน คยองซูแอบเลิกเปลือกตาขึ้นมาข้างหนึ่งแล้วก็ต้องตัวสั่นระริกด้วยความดีใจ
คนตัวดำช่างเผา!!!!!!!
“ตัวสั่นเชียว สงสัยคงตกใจ นี่ถ้าดึงตัวไว้ไม่ทันนี่อัดก๊อปปี้เลยนะเนี่ย”
อัดก๊อปปี้
ปี้เหรอฮะ
ก็โอนะ
ก็รู้ๆกันอยู่ว่าคยองซูมโนเก่งเป็นที่หนึ่ง และทำได้ดีเสียด้วย ถ้าเป็นคุณ คุณจะทำอย่างไร ถ้าคนที่ชอบมาโอบกอดเราอยู่ตรงหน้า
แหงล่ะ มโนต่อไปสิครัชชชชชชชชชชช!
“น้อง ไหวไหม ค่อยลุกขึ้นนะ”
“น้องคยองเวียนหัวจังเลยครับ”
“ชื่อคยองเหรอ ไม่ได้ชื่อตาโตเรอะไง” หัวเราะหึหึในลำคอ โคตรเซ็กซี่เป็นบ้า ดวงตาของคยองซูกลมโตและแฝงด้วยประกายงดงามราวกับคนตัวดำข้างหน้าคือสวนดอกดาวเรืองมหัศจรรย์กระนั้น ทำไมคนตัวดำคนนี้ถึงได้อ่อนโยนเป็นบ้าแบบนี้ ไม่เหมือนวันแรกที่เราเจอกันเลยแม้แต่น้อย
“คยองซูครับ แล้วผู้มีพระคุณชื่ออะไรครับ”
ต้องเรียกให้เวอร์เอาไว้ก่อนสินะ ดูเหมือนคนตัวดำตรงหน้าจะพึงพอใจกับคำสรรเสริญเยินยอของคยองซูเสียด้วย ถึงได้ส่งยิ้มฟันขาวแบบข้างรูปข้างกล่องดาร์ลี่มาให้
“ชื่อฉันเหรอ ฉันชื่อคิมจงอิน”
คิมจงอิน ขุ่นพระ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
สวัสดีครับ ผมชื่อคยองซู ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ



i128lala
Admin

Posts : 44
Join date : 2014-03-08

https://i128lala.thai-forum.net

Back to top Go down

Back to top

- Similar topics

 
Permissions in this forum:
You cannot reply to topics in this forum